ในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย ที่มีระยะเวลาไม่นานนัก จะเริ่มประมาณเดือนพฤศจิกายนจนถึงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงเวลาที่นักนักท่องเที่ยวจะมีโอกาสได้ท่องเที่ยวพร้อมกับสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นสบายในช่วงปลายปี
และในโอกาศนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติตามป่าเขาและเป็นโอกาสที่ซึ่งดอกศิลาวารี ซึ่งเป็นดอกไม้น้ำบนโขดหินกลางลำน้ำ ที่หาได้ยาก ออกดอกเพียงปีละครั้งพบได้สองแห่งในจังหวัดพิษณุโลก
ลักษณะของดอกศิลาวารี เป็นดอกตูมเล็กๆขนาดประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร เริ่มตูมเป็นสีเขียวสวย และสีน้ำตาลแดงสวยงาม บางจุดอยู่ใต้พื้นน้ำ ขี้นเป็นแนวแบบแผงมีดอกตูมสวยงาม
แห่งแรกคือที่แก่งคันนา และแก่งป่ากะชาว คลองชมภู หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลวงหลวง ที่ 5 (สล.5) อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ต.ชมพู อ.เนินมะปราง
นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาชมดอกศิลาวารี จะต้องติดต่อกับกลุ่มไกด์ชุมชน แจ้งขออนุญาตกับทางหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ที่ 5 (สล.5) แล้วเริ่มต้นเดินเท้าไปตามคลองชมพู เริ่มจากที่แก่งคันนา แก่งป่ากระซาว รวมระยะทาง 10 กิโลเมตร โดยมีลานกางเต้นท์ที่แก่งคันนา นักท่องเที่ยวสามารถชมธรรมชาติโดยรอบ เล่นน้ำตามแอ่งหรือตามแก่งต่างๆ และชมดอกศิลาวารีได้
หากนักท่องเที่ยวต้องการมาชมและสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่คลองชมพู ก็สามารถติดต่อที่นายบุญสืบ เผือกอ่อน หัวหน้ากลุ่มไกด์ชุมชน ท่องเที่ยวคลองชมพูได้ เบอร์โทรศัพท์ 085-7374528
โดยตลอดการเดินป่านั้น ทางกลุ่มจะเล่าถึงความสำคัญในจุดต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ฟังกัน ที่ผ่านมาก็มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมคลองชมพู กันอย่างต่อเนื่อง บางทริปก็นอน 3 วัน 2 คืน บางทริป ก็นอน 2 วัน 1 คืน แล้วแต่นักท่องเที่ยวจะสะดวก
แห่งที่สองคือที่บริเวณลำน้ำเข็ก บ้านแก่งจูงนาง หมู่ที่ 7 ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง
การเดินทาง โดยนักท่องเที่ยวสามารถขับรถไปตามเส้นทางวังทอง-หล่มสัก เมื่อถึงป้อมแก่งจูงนาง เลี้ยวขวา ไปถึงโรงเรียนบ้านแก่งสฤษดิ์เสนาอุปถัมป์ ให้เลี้ยวเข้าไปเส้นทางข้างโรงเรียนประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะถึงลำน้ำเข็ก สามารถจอดรถไปเที่ยวชมกันได้ โดยบริเวณแก่งสฤษดิ์ จะอยู่เหนือน้ำตกวังนกแอ่น หรือ น้ำตกสกุโณทยาน ประมาณ 3 กิโลเมตร
ที่มา