กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เผยผลวิจัยชี้คนเมืองกรุงมีพฤติกรรมเนือยนิ่งสูงถึงร้อยละ 79 แนะหยุดการใช้จอเป็นระยะ และหันมาขยับให้มากขึ้น รวมทั้งเสนอให้มีการส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการมีกิจกรรมทางกายในชีวิตประจำวัน
นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า กรมอนามัยได้ร่วมกับสำนักงานพัฒนานโยบายสุขภาพระหว่างประเทศ สำนักงานสถิติแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ศึกษาวิจัย เรื่อง รูปแบบและความสัมพันธ์ของการมีกิจกรรมทางกายและพฤติกรรมเนือยนิ่ง (การนั่งนาน) ของประชาชนในกรุงเทพมหานคร จำนวน 3,137 คน
พบว่า คนกรุงเทพมหานครมีกิจกรรมทางกายเพียงพอ ร้อยละ 83 แต่ยังพบมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง ร้อยละ 79
นั่นหมายถึง แม้จะออกกำลังกายเป็นประจำ หากในวิถีชีวิตประจำวันไม่ขยับหรือนั่งนาน ก็ยังมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ และพฤติกรรมดังกล่าวยังมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าจำนวนประชาชนทั้งประเทศ
ในทางกลับกัน การมีพฤติกรรมที่พึงประสงค์เพื่อสุขภาพที่ดี คือ กิจกรรมทางกายเพียงพอและพฤติกรรมเนือยนิ่งต่ำ ของคนกรุงเทพมหานคร มีเพียงร้อยละ 18 เท่านั้น
“ทั้งนี้ สาเหตุของพฤติกรรมดังกล่าว ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากความเร่งรีบในวิถีชีวิต การนั่งทำงานประจำ และการใช้อุปกรณ์จอ ทั้งคอมพิวเตอร์ มือถือ แทบเล็บ การมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ
การมีพฤติกรรมเนือยนิ่งสูงเป็นประจำส่งจะผลเสียต่อสุขภาพประชาชน อาทิ การเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต มะเร็ง เป็นต้น รวมทั้งการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
ซึ่งองค์การอนามัยโลกได้ให้คำแนะนำสำหรับการมีกิจกรรมทางกายเพียงพอ คือ การขยับร่างกายระดับปานกลางถึงหนัก อย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และลดพฤติกรรมเนือยนิ่ง คือ นั่งให้น้อยที่สุดในแต่ละวันเท่าที่สามารถทำได้ ” รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ด้าน นายแพทย์อุดม อัศวุตมางกุร ผู้อำนวยการกองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมอนามัยได้มีนโยบายส่งเสริมกิจกรรมทางกายของประชาชนทุกกลุ่มวัยในรูปแบบต่างๆ พร้อมทั้งจัดทำแผนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย พ.ศ.2561 – 2573 ร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ การส่งเสริมกิจกรรมทางกายในเขตเมือง กรมอนามัยแนะนำให้จัดกิจกรรมเพื่อลดพฤติกรรมเนือยนิ่งทั้งในเวลาทำงานและเวลาว่าง หยุดหรือลดการใช้จอเป็นระยะ ๆ เช่น การใช้โปรแกรมเตือนเมื่อใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน
รวมทั้งจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการขยับร่างกายและมีกิจกรรมทางกายด้วยการออกแบบเมืองให้ประชาชนเข้าถึงรถโดยสารสาธารณะ หรือสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะร้านอาหาร ร้านค้า หรือสวนสาธารณะ ได้สะดวกมากขึ้นด้วยการเดิน เพื่อให้มีกิจกรรมทางกายเพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวัน
กรมอนามัยยังคงยึดหลักการจากองค์การอนามัยโลก คือ ทุกการขยับนับหมด (every move counts) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีร่างกายที่แข็งแรงและมีสุขภาพดี
ที่มา https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/news141066/