“กิมจิ”
ถือเป็นอาหารประจำชาติและซอฟท์พาวเวอร์อย่างหนึ่งของสาธารณรัฐเกาหลี เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลกในฐานะตัวแทนของวัฒนธรรมอาหารของสาธารณรัฐเกาหลี
วัฒนธรรมการทำกิมจิ หรือ “กิมจัง” ยังได้รับเลือกให้เป็น “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” ของยูเนสโกเมื่อปี 2556 อีกด้วย
“กิมจิ” เป็นอาหารที่ใช้เวลาในการทำไม่นานและมีคุณประโยชน์หลายอย่างที่ดีต่อระบบไหลเวียนโลหิตและระบบขับถ่ายของร่างกายมนุษย์ เพราะมีส่วนประกอบหลักเพียงผัก ผลไม้ และเครื่องเทศ
ทั้งนี้ สมาคมกิมจิแห่งสาธารณรัฐเกาหลีประกาศให้วันที่ 22 พฤศจิกายนของทุกปีเป็น “วันกิมจิ” และจัดตั้งให้เป็นวันเฉลิมฉลองอย่างเป็นทางการในประเทศเกาหลีตั้งแต่ปี 2563 เป็นการสื่อว่าเมื่อแทนวัตถุดิบของ “กิมจิ” แต่ละชนิดด้วยเลข “1” แต่ละวัตถุดิบรวมตัวกันเป็นกิมจิคือ “1 ต่อ 1” กลายเป็นเลข “11” ซึ่งตรงกับ “เดือนพฤศจิกายน” และการรับประทานกิมจิให้ประโยชน์ 22 อย่าง เช่น ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ช่วยลดความเสี่ยงโรคลำไส้อักเสบและมะเร็งลำไส้ ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล มีโพรไบโอติกสูง ฯลฯ
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 66 ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน “เทศกาลกิมจิ” ขึ้นเป็นครั้งแรกเพื่อส่งเสริมกิมจิและสัมผัสประสบการณ์ “กิมจัง” ซึ่งหมายถึง “การรวมตัวเพื่อทำกิมจิจำนวนมาก ๆ ในฤดูหนาว” โดยจัดขึ้นที่ศูนย์การค้า MBK Center มีผู้เข้าร่วมทำกิมจิกว่า 400 คน ลงมือทำกิมจิกว่า 1,500 กิโลกรัม ส่วนผักกาดขาวสำหรับทำกิมจิได้นำเข้าจากจังหวัดแฮนัมที่อยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของสาธารณรัฐเกาหลี นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมประกวดทำกิมจิที่ใช้วัตถุดิบของประเทศไทย การบริจาคกิมจิที่ทำในงานจำนวน 1,000 กิโลกรัม ให้กับมูลนิธิเอสโอเอสซึ่งเป็นมูลนิธิแห่งแรกของประเทศไทยที่กู้ชีพอาหารส่วนเกินจากภาคธุรกิจเพื่อส่งต่อให้ผู้ที่ขาดแคลน และการแสดงทางวัฒนธรรมเกาหลีต่าง ๆ เช่น เทควันโด ซามุลโนรี
ในปีนี้ 2567 ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทยจัดกิจกรรม “วันกิมจิ” ขึ้นอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ได้คำนึงถึงปัญหาสภาพอากาศของโลกที่เปลี่ยนไป ทำให้ผักกาดขาวและหัวไชเท้าซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในสาธารณรัฐเกาหลีมีจำนวนลดลงเป็นอย่างมาก และเพื่อให้วัฒนธรรมการทำกิมจิที่ดีงามนี้ไม่ให้เลือนหายไป ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จะเลือกใช้วัตถุดิบหลักอย่างผักกาดขาวของประเทศไทยและประยุกต์วัตถุดิบผักผลไม้อื่น ๆ ของประเทศไทยให้กลายเป็นกิมจิได้ ทำให้งานนี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ในปีนี้ วันที่ 21 พ.ย.67 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดงานวันกิมจิ จัดโดยสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยและศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีประจำประเทศไทย ในการนี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครร่วมทำกิมจิโดยใช้ผักกาดขาวและมะละกอของไทยเป็นวัตถุดิบ ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เสาชิงช้า เขตพระนคร
ที่มา : pr.bangkok.com