ยุคแฟชั่นสุดฮิต (Fast Fashion) มาเร็วไปเร็ว หรือการผลิตเสื้อผ้าออกมารวดเร็วเพื่อตอบสนองเทรนด์แฟชั่น โดยเน้นที่การผลิตเสื้อผ้าในปริมาณมาก ราคาถูก และออกแบบให้คล้ายคลึงกับแฟชั่นแบรนด์ดัง แต่ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย ผู้บริโภคใส่ 1-2 ครั้งก็เบื่อทิ้ง แต่รู้หรือไม่ว่านี่คือสาเหตุของปัญหาสิ่งแวดล้อม
ในปี 2019 องค์การสหประชาชาติรายงานว่า ในระหว่างปี 2000-2014 ปริมาณการผลิตเสื้อผ้าบนโลกเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเพราะกระแสความนิยมของ Fast Fashion ซึ่งพฤติกรรมนี้ทำให้เสื้อผ้าที่ไม่ใช้งานแล้วถูกทิ้งกลายเป็นขยะในที่สุด และนับว่าเป็นปัญหาใหญ่ต่อสิ่งแวดล้อมโลก
ขั้นตอนการผลิตสิ่งทอที่มีผลต่อกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- การปลูกฝ้ายเพื่อผลิตเสื้อยืดเพียง 1 ตัว ต้องใช้น้ำถึง 2,700 ลิตร ซึ่งเป็นปริมาณน้ำที่มนุษย์สามารถดื่มได้ถึง 3 ปี 8 เดือน การผลิตเสื้อผ้าจำนวนมากทำให้เกิดมลพิษทางน้ำ จากการย้อมผ้า และสร้างขยะจำนวนมาก
- อุตสาหกรรมเสื้อผ้าปล่อยก๊าซเรือนกระจกในแต่ละปี 3.3 พันล้านตัน สูงเท่ากับอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของทวีปยุโรปทั้งทวีป ในแต่ละปี โดยสิ่งทอ 1 กิโลกรัม จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกราว 20 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
- เสื้อผ้าเส้นใยสังเคราะห์โพลีเอสเตอร์ หากซักเสื้อผ้าในถังขนาด 7 กิโลกรัม จะปล่อยไมโครไฟเบอร์ที่มีขนาดเล็กกว่า 500 ไมครอน มากถึง 31.5 ล้านชิ้น
แนวทางที่จะช่วยลดปัญหา Fast Fashion พวกเราช่วยได้อย่างไรบ้าง?
- หากเราสวมเสื้อผ้าเดิม 50 ครั้งต่อปี จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 400% ต่อชิ้นต่อปี ที่สำคัญยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อีกด้วย
- Mix & Match คือการเอาเสื้อผ้ามาใส่รวมกัน เล่นกับเลเยอร์เสื้อผ้าที่มี ช่วยให้ลุคดูมีมิติมากขึ้น นำเสื้อผ้าสไตล์ต่างๆ มาผสมกัน เช่น ชุดเซ็ทมานำมาแยกใส่กับตัวอื่นให้ได้ไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ เพื่อให้ลุคที่ไม่จำเจไม่น่าเบื่อ แถมยังช่วยให้คุณเกิดความคิดสร้างสรรค์ ช่วยเพิ่มโอกาสการหยิบเสื้อผ้าในตู้ออกมาใส่มากยิ่งขึ้น
- เสื้อผ้ามือสองเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดการผลิตเสื้อผ้าใหม่ และยังช่วยประหยัดเงินได้อีกด้วย
- เสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่แล้วสามารถนำไปบริจาคให้กับผู้ที่ต้องการได้
- เลือกซื้อเสื้อผ้าที่มีคุณภาพดีและเหมาะกับสไตล์เรา เพื่อให้ใส่ได้นานขึ้น
- สนับสนุนแบรนด์ที่ผลิตเสื้อผ้าอย่างยั่งยืน และใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เพียงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ก็เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถช่วยลดโลดเดือดได้
ที่มา :
https://www.facebook.com/share/p/xxJNkfCxFGYic7tD/?mibextid=oFDknk