เช่นเดียวกับหลาย ๆ เมือง กรุงลิสบอนได้กลายเป็นเมืองที่มีราคาอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากมีชาวต่างชาติได้เข้ามาซื้อ และจำนวนการเช่าห้องระยะสั้นก็มีจำนวนพุ่งสูงขึ้น มีการคาดการจำนวนการพักค้างคืน 19 ล้านคนในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าปี 2019 ถึง 12% นายโมเอดาส นายกเทศมนตรี กล่าวให้สัมภาษณ์ที่ศาลากลางกรุงลิสบอน ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่มีการฟื้นตัวที่เร็วที่สุด
นับตั้งแต่การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2020 เขากล่าว “มันเป็นการฟื้นตัวที่ไม่ธรรมดา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกรุงลิสบอนคิดเป็น 20% ของเศรษฐกิจโดยรวม การท่องเที่ยวคือการจ้างงาน นายคาร์ลอส โมเอดาส กล่าว เมืองหลวงของโปรตุเกสในปี 2066 นี้จะเป็นปีแห่งการท่องเที่ยว แต่ยังคงมีช่องโหว่เพื่อรองรับการเติบโต และการสร้างสมดุลระหว่างสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองที่มีต่อนักท่องเที่ยวเนื่องด้วยเพราะจำนวนอยู่อาศัยอันคับคั่งของคนคนในท้องถิ่น
นอกจากจำนวนนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมาจากการได้รับแรงหนุนจากเที่ยวบินที่บินตรงสู่กรุงสบอนที่เพิ่มขึ้นแล้ว เมืองนี้ยังจะได้รับประโยชน์จากงานชุมนุมวันเยาวชนโลกของชาวคาทอลิกในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสจะทรงเข้าร่วมงานนี้ด้วย คาดว่าจะนำผู้คนมาที่เที่นวเมืองนี้ประมาณ 1 ล้านคน และจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคต นายกเทศมนตรีวัย 52 ปี กล่าว
จากการที่ชาวต่างชาติมาซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลิสบอนพุ่งสูงขึ้นและการเช่าแบบระยะสั้นมีความต้องการมากขึ้น ทำให้ราคาบ้านในโปรตุเกสเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 12.6% ในปี 2565 ตามรายงานของสถาบันสถิติของประเทศ ทำให้ถูกตำหนิว่าเป็นสาเหตุทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในลิสบอนพุ่งสูงขึ้น และทำให้ครอบครัวในท้องถิ่นจำนวนมากไม่สามารถซื้อได้ เป็นเหตุให้เกิดการเรียกร้องรัฐบาลยุติให้โครงการวีซ่าทองคำและจำกัดการขึ้นราคาค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ กรุงลิสบอนซึ่งมีผู้อยู่อาศัยประมาณ 546,000 คน ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวระหว่าง 30,000 -40,000 คน
“ผมคิดว่าเรายังห่างไกลจากการท่องเที่ยวมากเกินไป เราไม่ได้อยู่ในระดับเวนิสหรือบาร์เซโลนา เราควรสนับสนุนกับการท่องเที่ยวต่อไป ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ”
นายกเทศมนตรีกล่าวว่า เขาจะคิดภาษีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เป็น 2 ยูโร (2.19 ดอลลาร์) ต่อคืน เป็นการเพิ่มเพียงเล็กน้อย เราก็จะมีเมืองที่สะอาดขึ้น และชาวลิสบอนจะมองว่าการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่ดี เป็นรายได้ที่มาจากการท่องเที่ยวเพื่อทำให้เมืองมีความสะอาดมากขึ้น”
โมเอดาส มาจากพรรค PSD ขวาจัด ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีในปี 2564 และเป็นอดีตกรรมาธิการยุโรปที่รับผิดชอบด้านการวิจัย วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนที่อยู่อาศัยในราคาย่อมเยาสำหรับคนในท้องถิ่น รวมถึงครูและพยาบาล
นายกเทศมนตรีมีแผนที่จะลงทุนมูลค่า 800 ล้านยูโร เพื่อที่อยู่อาศัยจนถึงปี 2026 โดย 500 ล้านยูโรจะมาจากโครงการ Next Generation EU ของสหภาพยุโรป เงินจำนวนดังกล่าวส่วนใหญ่จะถูกนำไปลงทุนในบ้านหลังใหม่ ในขณะที่การใช้จ่ายบางส่วนจะนำไปปรับปรุงอาคารที่ว่างเปล่า นอกจากนี้ กรุงลิสบอนยังคงต้องเร่งออกใบอนุญาตบ้านใหม่อีกด้วย เขากล่าว
“ที่อยู่อาศัยของคนในท้องถิ่นจะต้องเป็นแกนหลักในการถ่วงดุลการดึงดูดของชาวต่างชาติให้เข้ามาในเมือง” Moedas กล่าว เมืองจะต้องมี “ความหลากหลาย” เขากล่าว “พื้นที่ของเมืองไม่ควรเป็นเพียงเพื่อการท่องเที่ยว เพราะจะเกิดผลกระทบหลายอย่าง”
สิ่งที่ขาดหายไปในกรุงลิสบอนและโปรตุเกสคือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการเป็นเมืองหรือประเทศแห่งสตาร์ทอัพ ไปสู่การเป็นเมืองและประเทศที่มี “การเติบโตอย่างมาก” จนกลายเป็นบริษัท “ขนาดใหญ่”
ในขณะที่โปรตุเกสลงทุนในการหาบริษัทสตาร์ทอัพในช่วงหลายปีมานี้ โมเอดาสกล่าวว่าวิสัยทัศน์ของเขาในฐานะนายกเทศมนตรีคือการลงทุนในการขยายขนาดบริษัทที่มีการเติบโตสูงมากกว่าการแข่งขันระหว่างประเทศ
กรุงลิสบอนต้องวางตำแหน่งตัวเองในการแข่งขันกับเมืองต่างๆ ใครก็ตามที่สามารถดึงดูดผู้มีความสามารถได้มากขึ้น ก็จะมีการเติบโตที่ดีขึ้นและให้ผลผลิตมากขึ้น
โปรตุเกสเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจของชาวยุโรปเหนือ เนื่องจากโปรตุเกส เป็นประเทศที่สวยงาม มีสภาพอากาศอบอุ่น ฤดูหนาวที่ไม่หนาวจัด ทางภาคใต้ของโปรตุเกสมีอากาศอบอุ่นตลอดปี รวมถึงมีความสะดวกสบายในการเดินทาง ทั้งทางเครื่องบิน รถยนต์ และรถไฟ
ในอดีตนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศยุโรป ได้แก่ สเปนอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ อิตาลี และไอร์แลนด์ ส่วนนักท่องเที่ยวที่มาจากนอกทวีปยุโรป ได้แก่ บราซิล และสหรัฐอเมริกา รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากโดยได้ลงทุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ และประกาศแผน 10 ปี ในปี 2006 เพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มสัดส่วนของรายได้จากการท่องเที่ยวใน GDP และเพิ่มจำนวนบุคลากรที่มีคุณภาพในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยตั้งเป้าหมายใน 7 พื้นที่ต่างกันคือ Algarve, Alentejo, Douro, Serra da Estrela, Porto Santo, Madeira และ Azores และมีนโยบายเสริมสร้างแบรนด์ Portugal Tourism
ที่มา :
https://lisbon.thaiembassy.org/th/page/
Image by wirestock on Freepik