ปราสาทตาเมือนธม หรือ Prasat Ta Muen Thom (เขมร: ប្រាសាទតាមាន់ធំ) เป็นโบราณสถานสมัยอาณาจักรขอม ตั้งอยู่บนแนวชายแดนไทย–กัมพูชาในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ (บ้านหนองคันนาสามัคคี ตำบลตาเมียง)

🏛️ เจ้าของและการขึ้นทะเบียน
-
สร้างขึ้นในพุทธศตวรรษที่ 16–17 ตามศิลปะแบบบาปวน (Baphuon Style) โดยพระเจ้าอุทัยทิตยวรมันที่ 2 (Udayadityavarman II)
-
เป็นศาสนสถานในศาสนาฮินดู นิกายไศวนิกาย (นับถือพระศิวะ)
-
กรมศิลปากรของไทยได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 และพื้นที่ปราสาททั้งหมดอยู่ในเขตประเทศไทย 100%
🌐 ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
-
ปราสาทตั้งอยู่บนโขดหินตามธรรมชาติซึ่งเป็น “สยัมภูศิวลึงค์” (ลึงค์ตามธรรมชาติ) สะท้อนถึงความศรัทธาและพิธีกรรมทางศาสนาขอม
-
การหันหน้าไปทางทิศใต้ไม่เหมือนปราสาทขอมทั่วไป แสดงถึงการเชื่อมโยงกับแนวเส้นทางโบราณจากเมืองพระนครสู่เมืองพิมาย ผ่านช่องเขาตาเมือน
ที่มา : th.wikipedia.org
ปราสาทตาเมือนธมกลายเป็นข้อพิพาทระหว่างไทย–กัมพูชา เนื่องจาก ตั้งอยู่บนแนวชายแดนที่ทั้งสองฝ่ายตีความไม่ตรงกัน แม้ตัวปราสาทจะอยู่ในเขตไทย (อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์) และขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากรไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2478 แล้วก็ตาม แต่มีปัจจัยหลายด้านที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ ดังนี้:
🔹 1. ที่ตั้งบนแนวชายแดนพาดผ่าน “สันปันน้ำ”
-
ปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่บน เทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งเป็นแนวพรมแดนธรรมชาติระหว่างไทย–กัมพูชา
-
การตีความพรมแดนไม่ตรงกัน เพราะไทยใช้ “สันปันน้ำ” (แนวสันเขา) เป็นเส้นเขตแดน ขณะที่ฝรั่งเศส (ผู้เคยปกครองกัมพูชา) ใช้ “แผนที่ภาคผนวกหนึ่ง” (Annex I Map) ที่วาดขึ้นโดยฝรั่งเศส โดยไม่ยึดตามหลักสันปันน้ำ
-
นี่เป็นที่มาของข้อพิพาทพรมแดนอื่น ๆ ด้วย เช่น กรณีปราสาทพระวิหาร
🔹 2. เส้นทางและการเข้าถึงจากฝั่งกัมพูชา
-
แม้ตัวปราสาทจะอยู่ในไทย แต่ ทางขึ้น-ลงที่สะดวกที่สุดอยู่ฝั่งกัมพูชา
-
ทางกัมพูชาเคยกล่าวว่าคนในพื้นที่ของเขาเคยดูแลปราสาทนี้มาก่อน และอ้างความใกล้ชิดทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
🔹 3. ความคลุมเครือของหลักเขตแดน
-
หลักเขตแดนที่ 23 และ 24 ใกล้ปราสาทยังมีการตีความต่างกัน เช่น บางฝ่ายกล่าวว่าปราสาทเลยจากหลักเขตไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตร
-
ความไม่แน่ชัดนี้ ทำให้เกิดความอ่อนไหวในทางทหารและการเมือง
🔹 4. การปะทะระหว่างทหารสองฝ่าย
-
ช่วงปี 2551–2555 มีความตึงเครียดและการปะทะกันในหลายพื้นที่ชายแดน รวมถึงปราสาทตาเมือนธม
-
แม้จะไม่มีความรุนแรงระดับเดียวกับกรณีปราสาทพระวิหาร แต่การตั้งฐานทหารใกล้กันและการเคลื่อนกำลังบ่อยครั้ง ทำให้สถานการณ์อ่อนไหวตลอดเวลา
🔹 5. มุมมองเชิงวัฒนธรรมและอัตลักษณ์
-
กัมพูชาถือว่าปราสาทขอมในพื้นที่นี้เป็น “มรดกทางวัฒนธรรมของชาวเขมร” ที่ควรได้รับการคุ้มครองโดยรัฐกัมพูชา
-
ขณะที่ไทยมองว่า โบราณสถานเหล่านี้เป็น “มรดกขอมโบราณที่อยู่ในแผ่นดินไทย” และมีสิทธิ์ควบคุมดูแลตามกฎหมายระหว่างประเทศ
📌 สรุป
แม้ตัวปราสาทตาเมือนธมจะอยู่ในเขตแดนไทย จังหวัดสุรินทร์ โดยพิกัดและการขึ้นทะเบียน และได้รับการดูแลโดยกรมศิลปากร นับเป็นโบราณสถานสำคัญที่สะท้อนอำนาจและวัฒนธรรมขอมโบราณ แต่ความขัดแย้งเกิดจากปัจจัยประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ การตีความเขตแดน และความอ่อนไหวของสถานการณ์ชายแดน