กรมการขนส่งทางบก แนะสิ่งไม่ควรทำเพื่อเลี่ยงอุบัติเหตุช่วงเที่ยวสงกรานต์
กรมการขนส่งทางบกแนะประชาชนเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุ “ไม่ขับเร็ว-เมาไม่ขับ-โทรไม่ขับ-ง่วงไม่ขับ” ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง
นายเสกสม อัครพันธุ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก และโฆษกกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงที่มีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน คาดว่าประชาชนจำนวนมากได้มีการวางแผนเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ถนนหลายสายมีปริมาณการจราจรหนาแน่น หากผู้ขับขี่มีพฤติกรรมเสี่ยงในขณะขับรถ ย่อมเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ กรมการขนส่งทางบกในฐานะหน่วยงานที่พัฒนาและส่งเสริมระบบการขนส่งทางถนนและการใช้รถใช้ถนนให้มีความปลอดภัย
จึงขอแนะนำข้อควรปฏิบัติเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนน ดังนี้
1.ไม่ขับเร็ว
ไม่ใช้ความเร็วเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด โดยปฏิบัติตามป้ายจำกัดความเร็วบนเส้นทางอย่างเคร่งครัด ใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง สภาพอากาศ ปริมาณการจราจร และระยะในการมองเห็นเส้นทาง
2.เมาไม่ขับ
ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งช่วงก่อนและขณะขับรถ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการขับรถลดลง รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการทานยาที่มีฤทธิ์กดประสาท จำพวกยาแก้แพ้ ยาลดน้ำมูก ซึ่งส่งผลให้ความสามารถในการขับรถลดน้อยลง
3.โทรไม่ขับ
ไม่ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ ไม่ว่าจะเป็นการกดรับโทรศัพท์หรือการพิมพ์ข้อความ เนื่องจากทำให้เหลือมือจับพวงมาลัยเพียงข้างเดียวและต้องละสายตาจากเส้นทาง ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับรถ หากมีความจำเป็นควรใช้อุปกรณ์เสริมในการสนทนาทางโทรศัพท์ อาทิ หูฟัง บลูทูธ หรือจอดรถคุยในบริเวณที่ปลอดภัย
4.ง่วงไม่ขับ
ไม่ขับรถติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่มีการจราจรติดขัดในหลายเส้นทาง รวมถึงในเส้นทางตรงที่มีระยะทางไกลหลายกิโลเมตร อาจทำให้ผู้ขับขี่เกิดความอ่อนล้าและง่วงได้ ต้องระวังการ “หลับใน” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีที่มีคนขับรถคนเดียวต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
5.ควรหยุดพักรถทุก 2 ชั่วโมง ในบริเวณที่ปลอดภัย
เพื่อเปลี่ยนอิริยาบถ หรือพักหลับ 10-15 นาที ไม่ฝืนขับรถเมื่อมีอาการง่วงนอน ควรจอดรถพักในบริเวณที่ปลอดภัย จะช่วยป้องกันการหลับใน รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า ดังนั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยโดยเพาะในการเดินทางด้วยรถกระบะ และรถกึ่งกระบะ เพราะมีความเสี่ยงที่ผู้โดยสารกระเด็นหลุดออกนอกตัวรถเนื่องจากท้ายกระบะไม่มีอุปกรณ์นิรภัยใดๆ สำหรับผู้โดยสาร เมื่อเกิดอุบัติเหตุมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าผู้โดยสารตอนหน้า ที่คาดเข็มขัดนิรภัยถึง 8 เท่าและเสี่ยงพลิกคว่ำเพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อบรรทุก 10 คน และเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า เมื่อผู้โดยสารยืน เทียบกับไม่มีการบรรทุกคน
ดังนั้ขอให้ผู้ขับรถและผู้โดยสารปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ดังนี้
1.รถกระบะบรรทุกคนโดยสารในตอนท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน
2.รถกึ่งกระบะบรรทุกคนโดยสารในตอนพื้นที่ใส่สัมภาระด้านหลังที่นั่งคนขับ (Space Cab) ได้ไม่เกิน 3 คน
3.กรณีที่มีผู้โดยสารนั่งท้ายกระบะ ให้ใช้อัตราความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
4.ตลอดการโดยสารต้องไม่มีการยืนหรือนั่งโดยสารในลักษณะที่เป็นการเสี่ยงภัย กรณีนั่งในบริเวณกระบะ ต้องปิดฝากระบะท้าย
5.ห้ามนั่งริมขอบกระบะ ห้ามนั่งซ้อนผู้โดยสารอื่น หรือนั่งบนสิ่งของที่บรรทุกในรถ
6.ห้ามยืนโดยสารไม่ว่าตอนใดของรถ และไม่ยื่นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายออกนอกตัวรถในขณะนั่งโดยสาร
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการขับขี่อย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนให้ลดน้อยลง
ที่มา: กรมการขนส่งทางบก
Image by Freepik