คุยเรื่องถุงยางอนามัย

ในปัจจุบันถุงยางอนามัยมีทั้งแบบสำหรับผู้ชาย ผู้หญิง และชายรักชาย

1.ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย

ช่วยป้องกันโรคทางเพศสัมพันธ์ุ ควบคุมการกำเนิดถึง 98% ปัจจุบันถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชายมีให้เลือกมากมาย เช่น ถุงยางอนามัยแบบมาตรฐาน, ถุงยางอนามัยแบบบาง,ถุงยางอนามัยผิวไม่เรียบ,ถุงยางอนามัยแบบมีรสหรือกลิ่น,ถุงยางอนามัยผสมสารหล่อลื่น และถุงยางอนามัยช่วยชะลอการหลั่ง

2.ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิง

ถุงยางอนามัยผู้หญิงทำจากน้ำยางสังเคราะห์ที่บางและนุ่ม ใช้ใส่เข้าไปในช่องคลอดเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำอสุจิเข้าสู่ช่องคลอด หากใช้อย่างถูกต้อง ถุงยางอนามัยหญิงจะได้ผล 95%

ป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ถุงยางอนามัยผู้หญิงสามารถดันเข้าไปในช่องคลอดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้ ถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิงอาจไม่เหมาะกับผู้หญิงที่ไม่สะดวกที่จะสัมผัสบริเวณอวัยวะเพศ

ข้อควรระมัดระวังการใช้ถุงยาง

  • ถุงยางอนามัยผู้หญิงไม่ควรใช้ซ้ำ เปิดใหม่ทุกครั้งที่คุณมีเซ็กส์
  • ถุงยางอนามัยมีวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์ อย่าใช้ถุงยางอนามัยที่หมดอายุ
  • ถุงยางอนามัยไม่ควรเก็บในกระเป๋าสตางค์ ควรเก็บในที่เย็นและแห้ง
  • ถุงยางอนามัยหาซื้อได้ที่ร้านขายยา ช้อปปิ้งออนไลน์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต
  • ถุงยางอนามัยอาจขาดเพราะเล็บหรือเครื่องประดับทำให้อสุจิเล็ดลอดเข้าสู่ช่องคลอด

(สามารถใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินควบคุมการตั้งครรภ์ได้ แต่ไม่สามารถป้องกันโรคที่อาจเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ และอาจส่งผลกระทบต่อรังไข่และมดลูก รวมถึงกระตุ้นเซลล์มะเร็งได้)

3.ถุงยางอนามัยสำหรับชายรักชาย

ควรใช้ถุงยางอนามัยชนิดหนาพิเศษซึ่งจะพิมพ์ฉลากระบุไว้ข้างกล่องของถุงยางอนามัย  จะช่วยลดการฉีกขาดเวลามีเพศสัมพันธ์ของชายรักชายได้

เมื่อมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก  ควรใช้สารหล่อลื่นที่ละลายได้ในน้ำ เช่น KY Jelly ฯลฯ ทาถุงยางอนามัยเพื่อช่วยการหล่อลื่นอีกทางหนึ่ง  ห้ามใช้น้ำมัน เช่น โลชั่นทาผิว (มีส่วนผสมของน้ำมันปนอยู่) น้ำมันพืช น้ำมันทาผิว น้ำมันแร่ (เช่น ปิโตรเลียมเจล) ลิปสติก ลิปมัน (ที่ใช้ทากันปากแตก) ฯลฯ ไปทาถุงยางอนามัย  เพราะจะทำให้เกิดการละลายของยาง  ถุงยางจะบางลง และมีโอกาสแตกได้ง่ายขึ้น

ถุงยางอนามัยเป็นส่วนสำคัญของการป้องกันเอชไอวีและลดความเสี่ยงในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ การแสดงให้คู่นอนของคุณเห็นว่าคุณพร้อมที่จะใช้ถุงยางอนามัยเป็นสัญญาณว่าคุณเป็นคนที่ดูแลสุขภาพทางเพศ

ทั้งนี้จากข้อมูล HIV INFO HUB ศูนย์รวมข้อมูลสารสนเทศด้านเอชไอวีของประทศไทย  ในปี 2563 พบว่าประเทศไทยมีจำนวนผู้ติดเชื้อมีชีวิตอยู่ราว 500,000 คน และกำลังรับยาต้านเชื้อ 394,598 คน ผู้เสียชีวิตจากเอชไอวี 12,000 คน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,600 คน

คาดการณ์ผู้ติดเชื้อเอชไอวี

ปี ผู้ติดเชื้อมีชีวิต(คน) กำลังรับยาต้านเชื้อ(คน) ผู้เสียชีวิตจากเอชไอวี(คน) ผู้ติดเชื้อรายใหม่(คน)
2563 500,000 394,598 12,000 6,600

ที่มา : https://hivhub.ddc.moph.go.th/epidemic.php

การคาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ของประเทศไทย

หลังจากที่มีจำนวนติดเชื้อมากสุดราว 155,791 คน ในปี 2534 และเริ่มลดลงจนในปี 2564 มีผู้ติดเชื้อ 5,825 คน มีการคาดการณ์ว่าในปี 2565 จะมีผู้ติดเชื้อราว 5,585 คน

การลดจำนวนลงของผู้ติดเชื้อสืบเนื่องจากการรณรงค์เรื่องโรคเอดส์และการติดเชื้อเอชไอวี และการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อ20 ปีก่อน แต่จริงๆแล้วไทยมีถุงยางใช้ตั้งแต่ปี 2517 โดยคนไทยนิยมเรียกชื่อถุงยางอนามัยว่าถุงมีชัยเป็นการเรียกตามชื่อ นายมีชัย วีระไวทยะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลมีชื่อเสียงจากบทบาทการรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัย สำหรับการคุมกำเนิด และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โดยเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน