นิ่วทอนซิล ไม่อันตรายแต่ไม่ควรละเลย

 การทำความสะอาดช่องปากเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ หากไม่ได้รับการดูแลอาจมีเศษอาหารติดอยู่บริเวณซอกหลืบของต่อมทอนซิลจนเกิดการรวมตัวของแบคทีเรียและเชื้อรา 

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะค่อย ๆ จับตัวกันเป็นก้อนแข็งที่เรียกว่า “นิ่ว” บริเวณต่อมทอนซิล ทำให้เกิดปัญหามีกลิ่นปาก เกิดการระคายเคือง เจ็บคอ ไอเรื้อรังหรือทำให้ต่อมทอนซิลบวมได้

นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า 

นิ่วทอนซิลเกิดขึ้นได้ในคนทั่วไป โดยเฉพาะในผู้ที่มีปัญหาทอนซิลอักเสบหลายครั้งมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากการติดเชื้อของทอนซิลทำให้เกิดการสร้างเนื้อเยื่อส่วนเกินมากขึ้น และเนื้อเยื่อเหล่านี้อาจก่อตัวเป็นซอกและร่องในต่อมทอนซิล จึงทำให้เซลล์ที่ตายแล้ว น้ำลายและเศษอาหารต่าง ๆ ติดอยู่จนเกิดการรวมตัวของแบคทีเรียและเชื้อรา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะค่อย ๆ จับตัวกันเป็นก้อนแข็งที่เรียกว่านิ่ว 

 

โดยนิ่วทอนซิลเกิดขึ้นได้ทุกบริเวณของต่อมทอนซิล มีลักษณะเป็นก้อนสีเหลืองหรือสีขาวขนาดเท่ากับเมล็ดถั่ว โดยไม่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายแต่อาจทำให้เกิดกลิ่นปาก เกิดการระคายเคือง เจ็บคอ ไอเรื้อรังหรือทำให้ต่อมทอนซิลบวม หรือเจ็บบริเวณหู ซึ่งเป็นผลจากการอักเสบของทางเดินประสาทร่วมระหว่างหูและต่อมทอนซิลได้

แพทย์หญิงกัลยาณี วิทยเจียกขจร นายแพทย์ชำนาญการ กลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านโสต ศอ นาสิก โรงพยาบาลราชวิถี 2 (รังสิต) กล่าวเสริมว่า 

สำหรับการวินิจฉัยนิ่วทอนซิลแพทย์จะวินิจฉัยโดยการใช้เครื่องมือตรวจที่ ช่องคอหรือบางกรณีอาจใช้ภาพเอกซเรย์หรือภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เพื่อยืนยันผลการวินิจฉัย ซึ่งปกติแล้วผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาใด ๆ หากอาการไม่รุนแรง แต่หากนิ่วทอนซิลมีขนาดใหญ่หรือมีอาการต่าง ๆ เช่น เจ็บคอ มีกลิ่นปากมาก ต่อมทอนซิลบวมอักเสบ หรือปัญหาในการกลืนอาหาร ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องเข้ารับการรักษา 

สำหรับการรักษานิ่วทอนซิลสามารถทำได้หลายวิธี

ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้น เช่น ในกรณีที่มีนิ่วทอนซิลขนาดเล็กสามารถกลั้วคอบ้วนน้ำเกลืออุ่น ๆ หรือใช้คอตตอนบัดก้านสำลีเขี่ยออกได้  แต่ถ้ามีขนาดปานกลางถึงใหญ่ อาจจะต้องทำการผ่าตัดต่อมทอนซิลเพื่อกำจัดเนื้อเยื่อบริเวณที่มีนิ่วออกไป 

สำหรับวิธีป้องกันไม่ให้เกิดนิ่วทอนซิลนั้นทำได้โดย

1.การดูแลช่องปากให้สะอาดอยู่เสมอ

2.บ้วนปากด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาบ้วนปากวิธีนี้จะช่วยลดการก่อตัวของนิ่วและกลิ่นปาก 

3.ดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสม 

4.พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันการเกิดต่อมทอนซิลอักเสบ 

5.หากพบ สิ่งผิดปกติของต่อมทอนซิลควรรีบเข้าพบแพทย์ไม่ควรใช้เครื่องมือเอาออกเองอาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อหรือทำให้เลือดออกได้ 

***********************************

ที่มา : เพจเฟสบุค กรมการแพทย์

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0A49KJa7JsMX9ANRMFA5oQznNf4KdpFpifpFyMi4EFzjm89ydQoKZgigbc4BG3MWjl&id=100069182200543&mibextid=Nif5oz