แพทย์เผยกิจกรรมการทำอาหารช่วยลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อม

การทำอาหารช่วยลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อม

เนื่องจากปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุโดยเฉพาะกลุ่มโรคเรื้อรัง พบว่า ภาวะสมองเสื่อมเป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศ เป็นโรคที่พบในผู้สูงอายุและมีแนวโน้มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ความรุนแรงของปัญหา สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อผู้สูงอายุ ครอบครัว ทั้งในด้านจิตใจและความสัมพันธ์ รวมถึงส่งผลต่อระดับ สังคมและเศรษฐกิจของประเทศ 

 นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ผู้ป่วยที่มีภาวะสมองเสื่อมต้องประสบกับปัญหาความจำ หลงลืม ไม่สามารถจำสิ่งใหม่ๆได้ ทำให้มีปัญหาด้านพฤติกรรมและอารมณ์ตามมา เช่น อารมณ์ซึมเศร้า วิตกกังวล มีปัญหาในการนอน มีอารมณ์หงุดหงิดง่าย 

เหตุนี้จึงทำให้เกิดพฤติกรรมรุนแรงไม่เหมาะสม เช่น การด่าทอ ตะโกน ก้าวร้าว การคิดไม่สมเหตุสมผล 

หรือกระทั่งอาจพบอาการทางจิต เช่น หวาดระแวง หูแว่ว เห็นภาพหลอนซึ่งหากผู้ดูแลไม่มีความเข้าใจเรื่องนี้อาจทำให้เกิดปัญหาด้านความสัมพันธ์ได้ 

หากมีอาการของสมองเสื่อมรุนแรงขึ้น ผู้สูงอายุจะดูแลตนเองได้น้อยลง จนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้แม้กระทั่งกิจกรรมในชีวิตประจำวันปกติ  การทำอาหารเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นกิจวัตรประจำวันที่ซับซ้อนที่ต้องอาศัยการทำงานของสมองหลายส่วน เช่น การทำงานของสมองที่เกี่ยวกับด้านการวางแผน การรู้คิด และจดจำ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ข้อมูลวิธีการเตรียมทำอาหาร ส่วนประกอบของอาหาร รวมถึงการประกอบอาหารอย่างเป็นขั้นเป็นตอน สามารถช่วยลดความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมได้

แพทย์หญิงบุษกร โลหารชุน ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมการทำอาหารนอกจากการฝึกกระตุ้นให้ผู้สูงอายุได้มีการรู้คิด วิธีการเตรียมทำอาหาร ส่วนประกอบ การประกอบอาหาร การปรุงรสชาติอาหารเป็นอีกหนึ่งในกระบวนการใช้ประสาทสัมผัส ในการมอง การรับรส และการได้กลิ่น เพื่อที่จะบอกว่าอาหารที่อยู่เบื้องหน้ามีหน้าตา รสชาติ และกลิ่นเป็นอย่างไร 

ซึ่งการกระตุ้นประสาทสัมผัสหลายระบบสามารถเพิ่มความสามารถในการจดจำ การฝึกปฏิบัติเพิ่มความมั่นใจในการทำอาหารซึ่งเป็นการช่วยเหลือตนเอง และคงความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันได้ 

ที่มา : https://www.facebook.com/profile.php?id=100069182200543