นั่นเฉพาะบ้านที่ไม่คัดแยกขยะเท่านั้นสำหรับบ้านที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตร/วัน หรือไม่เกิน 4 กก./วัน และมีการคัดแยกขยะ ยังเก็บ 20 บาท เท่าเดิม
การปรับอัตราค่าขยะใหม่นี้ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลดและคัดแยกขยะอย่างจริงจัง และมุ่งหวังให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความสะอาดและการจัดการสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน
ปัจจุบัน กทม. รับภาระจัดการขยะในปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในแต่ละวันต้องจัดการขยะเฉลี่ยเกือบหมื่นตัน ซึ่งมีใช้ค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะอยู่ที่ประมาณ 2,300 บาท/ตัน
และเมื่อปริมาณขยะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การแยกขยะจึงเป็นอีกแนวทางสำคัญที่จะช่วยลดภาระในด้านการจัดการขยะ โดยข้อบัญญัติฯ ค่าธรรมเนียมขยะฉบับใหม่ จะมีผลบังคับใช้ในอีก 180 วัน หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งคาดว่าประมาณเดือนมิถุนายน 2568
ค่าธรรมเนียมขยะอัตราใหม่ สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไปที่มีขยะไม่เกิน 20 ลิตร/วัน (หรือประมาณ 4 กก./วัน) แบ่งเป็น 2 กรณี คือ
กรณีที่ 1 #บ้านที่ไม่คัดแยกขยะ
จะมีค่าธรรมเนียมขยะ 60 บาท/เดือน (แบ่งเป็น ค่าเก็บขนขยะ 30 บาท + ค่ากำจัดขยะ 30 บาท)
กรณีที่ 2 #บ้านที่คัดแยกขยะ
จะมีค่าธรรมเนียมขยะเพียง 20 บาท/เดือน เท่าเดิม (แบ่งเป็น ค่าเก็บขนขยะ 10 บาท + ค่ากำจัดขยะ 10 บาท)
โดยต้องลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
ในเบื้องต้นจะเป็นการลงทะเบียนทางแอปพลิเคชัน BKK Waste Pay และจะต้องมีการส่งหลักฐานการคัดแยกขยะผ่านแอปพลิเคชันดังกล่าวอย่างสม่ำเสมอ
เราจะได้อะไรจากการปรับอัตราค่าธรรมเนียม??
– ลดปริมาณขยะในพื้นที่กรุงเทพฯ
– พัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการขยะทั้งระบบ
– พัฒนาคุณภาพชีวิตคนกรุงเทพฯ
– ลดการสร้างก๊าซเรือนกระจก
ทั้งนี้การคัดแยกเป็นกลไกแรกๆ ของการจัดการขยะ วัตถุประสงค์เพื่อคัดแยกขยะที่สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ได้กลับมาใช้ประโยชน์ ก่อนจะนำขยะที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ไปกำจัดต่อไป
ซึ่งหากคัดแยกไปใช้ประโยชน์ได้ในปริมาณมาก จะช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัดน้อยลง
ทีมา https://www.facebook.com/share/p/15LQJBtfEP/
http://otop.dss.go.th/