ภัยแล้ง (Droughts) คือ ภัยธรรมชาติที่เกิดจากฝนตกน้อยหรือไม่ตกตามฤดูกาล เป็นระยะเวลานานหลายเดือนหรือหลายปี ทำให้สภาพดินฟ้าอากาศเกิดความแห้งแล้งและขาดแคลนน้ำ จนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต การอุปโภค การบริโภค เศรษฐกิจสังคม และสิ่งแวดล้อมช่วงเวลาการเกิดภัยแล้งในประเทศไทย
ภัยแล้งในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเกิดใน 2 ช่วง ได้แก่
1)ช่วงฤดูหนาวต่อเนื่องถึงฤดูร้อน โดยเริ่มจากครึ่งหลังของเดือนตุลาคมเป็นต้นไป บริเวณประเทศไทยตอนบน
- ภาคเหนือ
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ภาคกลางและภาคตะวันออก
โดยจะมีปริมาณฝนลดลงเป็นลำดับ จนกระทั่งเข้าสู่ฤดูฝนในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมของ ปีถัดไป ซึ่งภัยแล้งลักษณะนี้จะเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
2)ช่วงกลางฤดูฝน ประมาณปลายเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม
จะมีฝนทิ้งช่วงเกิดขึ้น ภัยแล้งลักษณะนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะท้องถิ่นหรือบางบริเวณ บางครั้งอาจครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างเกือบทั่วประเทศ
ผลกระทบจากภัยแล้ง
- เกิดภาวะขาดแคลนน้ำในการอุปโภค-บริโภค
- ผลิตผลทางการเกษตรลดลง ไม่เพียงพอต่อการบริโภคและการเลี้ยงปศุสัตว์
- เพิ่มโอกาสการเกิดไฟป่าได้ง่ายขึ้น ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน
- สัตว์ล้มตายจากการขาดอาหาร น้ำ และไร้ที่อยู่อาศัย
- เมื่อมวลอากาศร้อนปะทะกับมวลอากาศเย็นที่พัดมา เกิดอากาศแปรปรวนรุนแรงขึ้น ก่อให้เกิดพายุฤดูร้อน และภัยพิบัติอื่นๆตามมา
วิธีการแก้ปัญหาภัยแล้ง
การแก้ปัญหาภัยแล้วทำควรได้รับความร่วมมือจากทุกภาคฝ่าย
- แก้ปัญหาเฉพาะหน้า เช่น แจกน้ำให้ประชาชน ขุดเจาะน้ำบาดาล สร้างศูนย์จ่ายน้ำ จัดทำฝนเทียม
- การแก้ปัญหาระยะยาว อันได้แก่ การพัฒนาลุ่มน้ำ การสร้างฝาย การสร้างเขื่อน ขุดลอกแหล่งน้ำ การให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมมือในการจัดทำและพัฒนาชลประทาน การรักษาป่าและปลูกป่า เช่น การปลูกป่า 3 อย่าง ได้ประโยชน์ 4 อย่าง ตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น
เมื่อเกิดภัยแล้งจะรับมืออย่างไร
- วางแผนการใช้น้ำอย่างประหยัด ใช้เท่าที่จำเป็น และปิดน้ำทุกครั้งที่ไม่ใช้
- หาบรรจุภัณฑ์ที่สะอาด และมีฝาปิดมิดชิด สำหรับสำรองน้ำสะอาดไว้ใช้ให้เพียงพอ
- หมั่นตรวจสอบท่อน้ำ รีบซ่อมแซมทันทีเมื่อเกิดการรั่วซึม
- รดน้ำต้นไม้ในช่วงเช้าและเย็นที่อากาศไม่ร้อนจัด จะช่วยลดอัตราการระเหยของน้ำ
- กำจัดวัสดุหรือสิ่งที่เป็นเชื้อเพลิงรอบๆบ้าน เพื่อป้องกันการลุกลามของไฟป่า (กรณี ผู้ที่อยู่ใกล้พื้นที่ป่า)
- เตรียมหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน “สายด่วน กปภ. 1662” สำหรับขอน้ำเพื่อบริโภค และ “สายด่วนพิทักษ์ป่า 1362” เพื่อขอความช่วยเหลือในการดับไฟป่า
- เมื่อเกิดภัยพิบัติให้ติดตามข่าวสารอยู่เสมอ
ที่มา : กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th/info/info.php?FileID=71
ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ http://ndwc.disaster.go.th/